เปิดตำนาน Captain Morgan เหล้ารัมที่ครองใจคนทั่วโลก

captain morgan

เปิดตำนาน Captain Morgan เหล้ารัมที่ครองใจคนทั่วโลก Captain Morgan เป็นแบรนด์เหล้ารัมที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ผลิตโดยบริษัท Diageo ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ของโลก เหล้ารัม Captain Morgan มีความเป็นมาที่น่าสนใจและมีหลายประเภทให้เลือกดื่ม ทั้งนี้ บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา กระบวนการผลิต และประเภทต่างๆ ของเหล้ารัม Captain Morgan เพื่อให้คุณได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเหล้ารัมยอดนิยมแบรนด์นี้มากยิ่งขึ้น ประวัติความเป็นมาของ Captain Morgan Captain Morgan ได้รับการตั้งชื่อตาม Sir Henry Morgan ซึ่งเป็นนักสำรวจและนักล่าขุมทรัพย์ชาวเวลส์ในศตวรรษที่ 17 เขาเป็นที่รู้จักจากการทำงานเป็นกัปตันเรือและเป็นผู้ว่าการแห่งจาเมกา ในปี 1944, Seagram บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแคนาดาได้ก่อตั้งแบรนด์ Captain Morgan และผลิตเหล้ารัมที่มีชื่อเสียงนี้ขึ้นมา ต่อมาในปี 2001 Diageo ได้ซื้อสิทธิ์ในแบรนด์ Captain Morgan จาก Seagram กระบวนการผลิต การผลิตเหล้ารัม Captain Morgan เริ่มต้นจากการใช้กากน้ำตาลซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาล นำมาหมักเพื่อสร้างแอลกอฮอล์ […]

เบียร์ เครื่องดื่มที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

เบียร์

เบียร์ เครื่องดื่มที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เบียร์เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีการเตรียมการก่อนดื่มที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สามารถนับย้อนกลับไปได้ถึงต้นยุคหินใหม่หรือราว 9500 ปีก่อนคริสตกาล ประวัติ เมื่อเมล็ดธัญพืชถูกนำมาเพาะปลูกครั้งแรก และได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ของเมโสโปเตเมียและอียิปต์โบราณ นักโบราณคดีคาดว่าเบียร์มีบทบาทสำคัญในการก่อตัวของอารยธรรม เห็นได้จากเมื่อราว 5000 ปีต่อมา คนงานในเมืองอูรุกได้รับเบียร์เป็นค่าจ้าง และระหว่างการก่อสร้างมหาปิรามิดในกิซา คนงานแต่ละคนได้รับปันส่วนประจำวันเป็นเบียร์สี่ถึงห้าลิตร ซึ่งช่วยทั้งโภชนาการและทำให้สดชื่นเป็นส่วนสำคัญต่อการก่อสร้างปิรามิด หลักฐานแรกสุดทางเคมีของเบียร์ข้าวบาร์เลย์อยู่ในช่วง 3500–3100 ปีก่อนคริสตกาลจากแหล่งขุดค้นทางโบราณคดี โกดิน เทปี (Godin Tepe) ในภูเขาแซกรอส (Zagros) ทางตะวันตกของประเทศอิหร่าน บางส่วนของงานเขียนชาวซูมาเรียนมีการอ้างอิงถึงเบียร์ ตัวอย่างเช่น คำอธิษฐานถึงเทพีนินกาซิ (Ninkasi) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เพลงสวดนินกาซิ” ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำอธิษฐานและวิธีจดจำสูตรเบียร์ในวัฒนธรรมของผู้มีการศึกษา และคำแนะนำโบราณ (กรอกท้องของคุณทั้งวันและคืนทำให้มีความสุข) ถึงกิลกาเมช ที่บันทึกไว้ในมหากาพย์กิลกาเมชโดยชิดูรี (Sidur) ซึ่งอาจอ้างถึงการดื่มเบียร์ แผ่นจาลึกอัลบลา (Ebla tablets) ที่ค้นพบในปี ค.ศ. ในอาณาจักรอัลบลา ประเทศซีเรีย แสดงว่าเบียร์ถูกผลิตขึ้นในเมื่องเมื่อ 2500 ปีก่อนคริสตกาล เครื่องดื่มหมักที่ใช้ข้าวและผลไม้ในการผลิตในประเทศจีนเกิดขึ้นประมาณ 7000 ปีก่อนคริสตกาล ประวัติการผลิตเบียร์ในประเทศไทย ประเทศไทยนั้น […]

ทำไมวันวาเลนไทน์ต้องให้ช็อกโกแลต

วาเลนไทน์

ทำไมวันวาเลนไทน์ต้องให้ช็อกโกแลต สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยในเทศกาลวันแห่งความรักนี้ก็คือของขวัญ ซึ่งที่เป็นที่นิยมกันก็คือ ช่อดอกไม้ การ์ดอวยพร รวมไปถึง “ช็อกโกแลต” ของหวานชิ้นนี้เกี่ยวข้องอะไรกับวันวาเลนไทน์ ที่มาของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์มาจากไหน และมีความหมายอย่างไร ทำไมต้องให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์ ที่มาของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์เริ่มขึ้นในสมัยจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ของกรุงโรม โดยในสมัยนั้นกรุงโรมมักตกอยู่ในภาวะสงครามอยู่บ่อยครั้ง องค์จักรพรรดิจึงสั่งเกณฑ์ผู้ชายทุกคนไปออกรบ พร้อมทั้งออกกฎห้ามให้มีการหมั้นหมายและสมรสเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ชายไปรบต่อสู้ข้าศึกโดยที่ไม่ต้องมีห่วงกังวลใดๆ ถึงขั้นออกกฎว่าหากมีผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว  อย่างไรก็ตามมีชายหญิงหลายคู่ลักลอบแอบจัดพิธีสมรสกันโดยมีนักบุญที่ชื่อว่า “วาเลนไทน์” ทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบพิธีแต่งงานให้ เมื่อจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ทราบข่าว จึงได้สั่งประหารชีวิตนักบุญวาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงเป็นที่มาของวันระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ ก่อนพัฒนามาเป็นวันแห่งความรักในปัจจุบัน ส่วนสาเหตุของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์ของยุคนั้นก็มาจากการที่คู่รักต้องพบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันมากนัก จึงเป็นที่มาของการมอบของขวัญแทนความรักความปรารถนาดีซึ่งก็คือ ช็อกโกแลต เนื่องจากในยุคสมัยนั้นช็อกโกแลตถือเป็นสิ่งของที่มีคุณค่ามาก เป็นของหายากในยุคนั้น มีราคาแพง จำกัดเฉพาะแค่กลุ่มคนชั้นสูงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ความหมายที่แท้จริงของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์จึงหมายถึงความเสน่หา ความดึงดูดใจ ความรักที่ลึกซึ้ง ความหรูหรา ความเร่าร้อน และความเย้ายวนใจนั่นเอง ที่มาของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์เริ่มขึ้นในสมัยจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ของกรุงโรม โดยในสมัยนั้นกรุงโรมมักตกอยู่ในภาวะสงครามอยู่บ่อยครั้ง องค์จักรพรรดิจึงสั่งเกณฑ์ผู้ชายทุกคนไปออกรบ พร้อมทั้งออกกฎห้ามให้มีการหมั้นหมายและสมรสเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ชายไปรบต่อสู้ข้าศึกโดยที่ไม่ต้องมีห่วงกังวลใดๆ ถึงขั้นออกกฎว่าหากมีผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว  อย่างไรก็ตามมีชายหญิงหลายคู่ลักลอบแอบจัดพิธีสมรสกันโดยมีนักบุญที่ชื่อว่า “วาเลนไทน์” […]