[et_pb_section fb_built=”1″ theme_builder_area=”post_content” _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default”][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

วิธีอ่านใจคน

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

มนุษย์เรามีความซับซ้อนทางจิตใจ สมอง และการแสดงออกมาก ทำให้การ อ่านใจคน เป็นเรื่องที่ยาก การกระทำกับคำพูดอาจจะสวนทางกัน โดยที่เราไม่ทันได้เอะใจเลยสักนิด หรือไม่ก็กำลังมีใครบางคนโกหกหรือปกปิดบางสิ่งอยู่

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

วิธีอ่านใจคน

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

ตามหลักทฤษฎีของนักจิตวิทยา 90 เปอร์เซ็นต์ของความรู้สึกในใจจะแสดงออกมาในรูปแบบบุคลิกและท่าทาง การ “อ่านใจคน” ให้ออก จะทำให้เราเป็นต่อในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรักหรือการงาน ด้วยความที่เราไม่สามารถใช้วัจนภาษาในการสื่อสารเพียงอย่างเดียว อวัจนภาษาก็ต้องสอดคล้องควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังสื่อสารออกไป เราจำเป็นต้องฝึกใช้ท่าทางและอ่านท่าทางของฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้สามารถรับมือและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม อยากให้เข้าใจก่อนว่า วิธีที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ไม่ใช่เครื่องการันตีว่าจะต้องถูกต้องเสมอไป เพราะแม้แต่นักจิตวิทยาเองก็สามารถอ่านความคิดด้วยวิธีนี้ได้ถูกต้องเพียง 80 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น มาดูกันว่าเราจะสามารถ “อ่านใจคน” จากการสังเกตบุคลิกและท่าทางได้อย่างไร จาก 5 ข้อที่เราได้รวบรวมมา ดังนี้

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

1. สังเกต “การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแก้ม”

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

บางครั้งเราก็ต้องยิ้มเพื่อเอาใจเจ้านายเวลาที่ฟังเรื่องแสนน่าเบื่อ เจอคนที่ไม่ชอบหน้าที่ทำงาน หรือเวลาเจอตลกฝืด วิธีสังเกตคนเวลาที่ยิ้มอย่างไม่เต็มใจนั้นให้ดูที่ “แก้ม” เพราะเวลาที่หัวเราะหรือยิ้มจากใจจริง ๆ “กล้ามเนื้อตรงแก้ม” ที่เรียกว่า “ไซโกมาติคัสเมเจอร์” จะยกขึ้น เช่น เวลาเห็นใครเล่าตลกฝืด แต่อีกฝ่ายยิ้มยกแก้มขึ้น นั่นแปลว่าเขาตลกกับมันจริง ๆ แต่ถ้าต่อให้หัวเราะดังแค่ไหนแต่แก้มไม่ยกขึ้นเลย นั่นคือการแสร้งยิ้ม และเขาคิดว่าสิ่งนี้มันน่าเบื่อ ถ้าเราอยากรู้ว่าคนรอบตัวของเรายิ้มออกมาจากใจหรือไม่ ให้เราสังเกตการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแก้ม นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกตได้จากการมองไปทั่วทั้งใบหน้า ถ้ายิ้มแล้วปรากฏรอยย่นบนใบหน้า นั่นแสดงถึงการยิ้มออกมาจากใจ

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

2. อ่านใจคนจาก “การแสดงออกทางสีหน้า”

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

การแสดงออกทางสีหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่สบายตัวหรือหดหู่ มีทั้งการขมวดคิ้ว ขบกราม เม้มปาก ใบหน้าตึงและอาการคอแข็ง หากคู่สนทนาของคุณหลับตาลงชั่วครู่ ที่ไม่ใช่การกระพริบตา กระแอมในคอ หรือพูดทวนคำถาม นั่นหมายถึง เขากำลังถ่วงเวลาเพื่อหาข้อแก้ตัว รวมไปถึงอาการไม่สบตา กระพริบตาถี่ หรือ ท่าทางหลุกหลิก อ่านได้ว่าเขากำลังโกหก ในขณะเดียวกันก็อาจหมายถึงความวิตกกังวล ส่วนในการยกคิ้วสูงอาจหมายถึง อาการประหลาดใจ กังวลใจ และกลัว อีกวิธีง่ายๆ ในการจับสังเกตว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกไม่สบายใจ หรือเครียดกับสิ่งที่เรากำลังพูด คือถ้าคู่สนทนาขบขากรรไกรแน่น จนคอตึง หน้าผากย่น อาการเหล่านี้แสดงว่าภายในใจของอีกฝ่ายกำลังว้าวุ่น

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

3. มอง “ทิศทางของร่างกาย”

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

มองให้ออก บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด ภาษากายเป็นสิ่งที่ยากจะโกหกได้ สมมติว่าเราอยู่ต่อหน้าคนที่รู้สึกดีด้วย เราจะอยากอยู่ใกล้เขา โดยร่างกายจะโน้มตัวไปข้างหน้าเองโดยธรรมชาติ ในทางกลับกัน ถ้าเราอยู่ต่อหน้าคนที่เราเกลียด จิตใต้สำนึกจะบอกว่าเราต้องอยู่ห่างจากคนนี้เท่าที่เราจะห่างได้ โดยที่ร่างกายเราจะเอนเอียงออกห่างไปเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่คู่สนทนาเอนตัวออกห่างขณะพูด สามารถอ่านได้ว่า ณ ขณะนั้น เขากำลังรู้สึกเครียดหรือกดดัน การข่มขวัญทางจิตวิทยาส่งผลในเรื่องการเจรจาธุรกิจอยู่ไม่น้อย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม สำหรับการเจรจาธุรกิจสำคัญ เทคนิคที่เราสามารถทำได้ทันทีคือ การเอนไปข้างหลังแล้วยืดอก การเอนไปข้างหลังนั้นเป็นการแสดงออกอย่างธรรมชาติและมีความหมายว่ากำลังโกรธอยู่อีกด้วย เมื่อเราเอนไปข้างหลัง อีกฝ่ายจะเริ่มแสดงอาการกังวลออกมาและยอมประนีประนอมให้เอง แต่ถ้าอยากแสดงความเป็นมิตร ให้เราโน้มตัวมาข้างหน้า ทั้งหมดนี้ต้องดูตามสถานการณ์เพื่อให้ใช้ได้ถูกต้อง ในขณะเดียวกันลักษณะท่าทางอย่าง การถูมือเข้ากับต้นขา การกุม การถูหน้าผาก ก็หมายความถึงภาวะตึงเครียดหรือกดดันเช่นกัน เมื่อเรากำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาอาจจะหันไปมองด้านซ้ายหรือด้านขวาในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง การทำแบบนี้สามารถทำให้เราอ่านนิสัยได้ด้วย มีผลวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดว่า คนที่มองด้านขวาขณะคิดจะเป็นคนที่แน่วแน่ พุ่งชนกับปัญหา แต่ถ้ามองไปทางซ้ายคือคนที่เมื่อเจอสถานการณ์ที่ไม่ชอบใจจะเลือกอดทน และมีพฤติกรรมที่กลุ้มใจง่าย สรุปแล้วคนที่มองไปทางขวาคือชอบคิดวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหา ส่วนคนที่มองทางซ้ายจะมีแนวโน้มยอมแพ้ตั้งแต่ต้นนั่นเอง

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

4. อ่านความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย “การมองตา”

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

 “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” นั่นเป็นคำพูดที่จริง เพราะเราสามารถอ่านความคิดของคนได้ผ่านดวงตา เพราะดวงตาเป็นจุดที่แสดงความรู้สึกได้ดีที่สุด สังเกตได้ว่าเมื่อเราสนใจในบทสนทนา ตาของเราจะเบิกกว้างและเป็นประกายมากขึ้น แต่ถ้ารู้สึกเบื่อ ไม่น่าสนใจ ตาของเราก็จะหรี่ลง เรายังสามารถรู้ได้ด้วยว่าอีกฝ่ายชอบเราหรือไม่ผ่านดวงตา ถ้าอีกฝ่ายชอบเราดวงตาจะโตเพราะจับจ้องมาที่เรา แต่ถ้าเกลียดจะหรี่ตาเล็กนั่นเอง การจับโกหกผ่านดวงตาเรามักจับโกหกจากอาการหลบสายตา แต่วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะหลายคนเริ่มจับทางได้ หันมากลบเกลื่อนอาการโกหกด้วยการไม่หลบสายตาอีกแทน เพราะฉะนั้นวิธีจับโกหกจากดวงตาเลยเปลี่ยนเป็นการสังเกตว่าคนที่พยายามประสานสายตาระหว่างสนทนาด้วยนั้นดูจงใจ หรือจ้องตานานเกิน 10 วินาที ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจกำลังพยายามปกปิดความจริงบางอย่างอยู่ เพราะจากการศึกษาโดยเฉลี่ยคนจะประสานสายตากับคู่สนทนาเพียง 7-10 วินาทีเท่านั้น อาการอื่น ๆ อย่างอาการรูม่านตาขยาย หรือการหลับตาแน่น แสดงให้รู้ว่าคนๆ นั้นถูกรบกวนด้วยภาพที่กำลังมองอยู่ได้ด้วย

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

5. อ่านนิสัยและความคิดจาก “ท่าทาง”

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

คนที่มีนิสัยต้องจับของตลอดเวลา เช่น ควงปากกา เล่นมือถือ พอไม่ได้จับก็จะรู้สึกหงุดหงิด มักมีนิสัยต่อต้านคนอื่น เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ เวลาที่จะชวนคนประเภทนี้ไปไหน ควรชวนซ้ำสัก 2 – 3 รอบ เพื่อป้องกันการโดนปฏิเสธ แต่ที่จริงนิสัยของคนประเภทนี้เป็นคนที่คบหาด้วยง่าย ส่วนการกอดอก หรือไขว้ขาเป็นประจำนั้น  เป็นการสร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นระหว่างคู่สนทนา ผลการศึกษาการเจรจาต่อรองจำนวน 2,000 คู่ พบว่าคู่เจรจาที่ฝ่ายหนึ่งแสดงอาการไขว้ขาล้วนลงเอยด้วยความล้มเหลวทั้งสิ้น ที่เป็นเช่นนี้ในเชิงจิตวิทยาอธิบายว่า การที่คนเราแสดงท่าทางดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังพยายามกันตัวเองจากสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า บางคนเชื่อว่าท่าทางที่แสดงออกนั้นสำคัญ เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมเราเห็นคนบางคนแค่วินาทีแรกที่เจอก็เหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่าง แต่สำหรับบางคน แค่ก้าวแรกที่ปรากฏตัว ก็ชวนให้ตัดสินว่าไม่น่าคบหา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะภาษากายที่แสดงออก แน่นอนว่าหากเดินด้วยท่าทางมั่นใจ อกผายไหล่ผึ่ง ย่อมสะท้อนถึงบุคลิกของคนที่มีความมั่นใจ

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_image src=”https://www.youngsode.com/wp-content/uploads/2023/01/อ่านใจคน.jpg” _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” alt=”อ่านใจคน” title_text=”อ่านใจคน” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″][/et_pb_image][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

สุภาษิตไทยที่ว่า “รู้หน้าไม่รู้ใจ” ยังคงเป็นความจริงที่แสลงใจเสมอ เพราะต่อให้คุณสามารถเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกสุด ไม่ให้แสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง หรือ วาจาที่เอื้อนเอ่ยได้เก่งขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้ว ภาษากายที่หลายครั้งแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว กลับเฉลยความจริงในใจที่คุณพยายามซุกซ่อนไว้อย่างไม่น่าให้อภัย

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_column _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” type=”4_4″ theme_builder_area=”post_content”][et_pb_text _builder_version=”4.19.4″ _module_preset=”default” theme_builder_area=”post_content” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.terrabkk.com

https://www.okmd.or.th

https://www.thaipsy.org

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]